เป็นเกมที่ไม่มีลุ้น และไม่มีเสียวเลยจริงๆสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งสมควรตกรอบแปดทีมถ้วย ยูโรปาลีก หลังบุกไปแพ้ เซบีย่า แบบหมดรูป 3-0 ในการฟาดแข้งนัดสองที่สนาม รามอน ซานเชซ ปิซฆวน
แน่นอนว่าสกอร์เกมแรกที่เสมอกัน 2-2 ทั้งๆที่ ผีแดง นำหน้าก่อนสองประตูเป็นสัญญาณเตือนว่าทีมจากเมืองผู้ดีมีสิทธิ์อกหักอีกตามเคยเพราะไม่เพียงจะโดนทีมเยือนไล่ตีเสมอ พวกเขายังมีปัญหานักเตะล้มเจ็บระนาวอีกด้วย
1. เจ้าถิ่นโรเตชั่นสี่จุด
เซบีย่า เปลี่ยนทีมรับมือ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมสี่รายเมื่อเทียบกับโผล่าสุดในเกมลีกที่พวกเขาบุกไปสยบ บาเลนเซีย ทีมรองบ๊วยได้ 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แน่นอนว่านายทวารคนเก่ง ยาสซีน บูนู กลับมาเฝ้าตาข่ายตามเดิม ส่งผลให้ มาร์โก ดิมิโตรวิช ต้องนั่งสำรองร่วมกับ ซูโซ่ และ ไบรอัน กิล
พร้อมกันนี้ เจ้าพ่อ ยูโรปาลีก หันมาใช้งานกองหน้า ยุสเซฟ เอ็น เนซีย์รี่ เป็นตัวจริงร่วมกับ เอริค ลาเมล่า และ อีวาน ราคิติช ด้วย
2. ผีจับ แรชฟอร์ด, ชอว์ นั่งข้างสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เสี่ยงส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ ลุค ชอว์ ที่เพิ่งหายเจ็บออกสตาร์ตทันทีโดยสองขุนพลทีมชาติ อังกฤษ มีชื่อนั่งข้างสนามทั้งคู่
อย่างไรก็ดี มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ซึ่งยิง เซบีย่า คนเดียวสองเม็ดก่อนโดนตีเสมอคัมแบ็คเป็นตัวจริงหลังเจ็บช่วงวอร์มอัพจนพลาดการลงสนามเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่บุกไปกำราบ ฟอเรสต์ 2-0 เมื่อวันอาทิตย์
ขณะเดียวกัน ผีแดง ประสบกับปัญหาไร้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพคนสำคัญที่ได้ใบเหลืองในเกมแรก และถูกแบนหนึ่งนัด
หากแต่เมื่อเทียบ 11 นักเตะจากเกมบู๊กับ เจ้าป่า เอริค เทน ฮาก กุนซือดัตช์เปลี่ยนทีมตัวจริงรายเดียวเท่านั้นโดยมิดฟิลด์ทีมชาติ ออสเตรีย ได้เสียบแทนตำแหน่งของสตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส
3. ใครผิด แม็กไกวร์ หรือ เด เคอา???
เพียงแค่ 8 นาที แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตัน ผีแดง ก็ก่อความผิดพลาดรับบอลสั้นจาก เดบิด เดเค อา แล้วพยายามป้ายออกขวาให้ อาร่อน วาน บิสซาก้า แต่โดน ลาเมล่า เข้าบีบเร็วแล้วบอลกระดอนไปให้ เอ็น เนซีย์รี่ เก็บตกนิ่มๆพา เซบีย่า นำเร็ว 1-0
ต่อจังหวะดังกล่าว คงต้องพิจารณากันว่าเป็นความผิดของ เด เคอา ที่ผ่านบอลสั้นในระยะประชิดมากไปหรือว่า แม็กไกวร์ ที่ยังเฟอะฟะไม่เลิก หรือจะเป็น เทน ฮาก ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ อังกฤษ ไม่มีเบสิกใช้เท้าที่ดีพอ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงไม่ควรเล่นในสไตล์สร้างเกมขึ้นมาจากแผงหลังอย่างเคย แต่ก็แน่นอนว่าเจ้าถิ่นรู้เช่นเห็นขาติเช่นกันว่า ผีแดง เกมนี้มีจุดอ่อนในแผงเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จึงเข้าบีบเร็วในจังหวะที่ทีมเยือนพยายามต่อบอลสั้น และได้ผลทันตาเห็น
นอกจากนี้ อนาคตของ แม็กไกวร์ คงถูกพูดถึงอย่างหนักโดยเฉพาะเมื่อเขามีส่วนทำให้ทีมเสียประตูสำคัญ โอกาสย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจบซีซั่นนี้จึงน่าจะมีมากขึ้นแทบจะ 100% เลยทีเดียว
แต่ที่แน่ๆ เอ็น เนซีย์รี่ กองหน้าทีมชาติ โมร็อคโก คลำเป้าให้ เซบีย่า ครบ 50 เม็ดพอดีจากการลงสนามในทุกรายการเป็นนัดที่ 146 ของเขากับทีมดังของลีกกระทิงดุ
4. ไร้ผู้นำไร้ชัย
หลังเสียประตู แมนฯ ยูไนเต็ด แทบไม่มีสิทธิ์ทวงสกอร์คืนเลย ซ้ำร้ายก่อนจบครึ่งแรกห้านาทีหวิดโดนหนีห่าง 2-0 ด้วย ดีที่ว่า มาร์กอส อคุนญ่า ล้ำหน้าแบบเส้นยาแดงก่อนจ่ายให้ ลูกัส โอกอมโปส ซัดไม่เหลือ
รวมแล้วรูปเกมใน 45 นาทีแรก ผีแดง เป็นรองชัดเจนโดยเฉพาะในจังหวะที่ เซบีย่า มีพื้นที่บุกขึ้นหน้าซึ่งพวกเขาหาช่องสร้างความหวาดเสียวได้ตลอดเวลา
ตรงข้ามกับทีมจาก พรีเมียร์ลีก ที่เกมนี้ไม่มี แฟร์นันด์ส และมันฟ้องเต็มตาว่าทำให้ทีมปราศจากจอมทัพที่สามารถสาดบอลยาวในจังหวะชี้เป็นชี้ตายสร้างโอกสสอยตาข่ายให้ทีมได้ซึ่งแม้ ซาบิตเซอร์ จะได้ลงสนามโดยแผนผังระบุว่าเขามีบทบาทเป็นหมายเลข 10 แต่ดาวเตะทีม บาเยิร์น มิวนิค ไม่อาจรับภาระดังกล่าวได้ และเป็นเรื่องโชคดีมหันต์ที่ เร้ด เดวิลส์ ตามหลังแค่เม็ดเดียวใน 45 นาทีแรกโดยสถิติชี้ว่า ผีแดง เหนือกว่าเล็กน้อยแค่การครองบอล 53:47% แต่เป็นรองในจังหวะยิงประตู 9:7 ครั้งโดย เซบีย่า ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่าเช่นกัน 2:1 ครั้ง
5. สถิติไม่เคยโกหก
แม้ เทน ฮาก จะเปลี่ยนตัวทันทีในครึ่งหลังหวังแก้เกมโดยส่ง แรชฟอร์ด ลงสนาม แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อยเนื่องจากเกมของทีมเยือนไม่กระเตื้องขึ้น และยังเป็น เซบีย่า ที่มีโอกาสเพิ่มสกอร์มากกว่าจากการตั้งรับ และรอโต้กลับ
จนในที่สุด ก่อนหมดเวลา 9 นาที เด เคอา ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นนายทวารที่ใช้เท้าได้แย่หลังออกมาเกี่ยวบอลนอกเขตโทษหลุดเท้าจนทีมเสียหายอย่างแรงกับการเสียประตูที่สามให้กับ เอ็น เนซีย์รี่ เพิ่มสถิติกระทุ้งเป็นลูกที่ 51 ให้กับเจ้าบ้านหลังจากทีมเมืองกระทิงบวกเม็ดสองไปก่อนแล้วตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังจากลูกโขกของ โลอิก บาเด้
ถึงตรงนี้ มือกาวสแปนิชจึงก่อวีรกรรมในทางลบด้วยการเป็นนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ที่ก่อความผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูในทุกรายการมากที่สุดนับตั้งแต่ออกสตาร์ตซีซั่นก่อนรวม 5 ประตูแล้ว
ครบ 90 นาที เซบีย่า ครองบอลเป็นรองก็จริง 38:62% แต่มันเป็นเรื่องของแท็คติกในเมื่อมีสกอร์นำหน้าโดยทีมเจ้าบ้านได้โต้ขึ้นไปสับไกมากกว่าด้วย 19:16 ครั้ง ตลอดจนส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่าเช่นกัน 6:3 ครั้ง
ฉะนั้นแล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาวิธีแก้ลำ เซบีย่า ไม่ได้อีกตามเคย ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย และไม่ว่าใครจะเป็นนายใหญ่ พวกเขาก็ยังเป็นเหมือนงูเหลือมเจอเชือกกล้วยเมื่อต้องต่อกรกับ เซบีย่า ซึ่งเพิ่มสถิติชนะ ผีแดง สามครั้ง และเสมอสองครั้งโดยไม่เคยแพ้เลย แถมทีมจาก โรงละครแห่งความฝัน โดนเขี่ยตกรอบถ้วยยุโรปเรียบวุธตลอดทั้งสามครั้งที่ดวลกัน
พร้อมกันนี้ ความปราชัยในแดนกระทิงดุนัดนี้อาจส่งผลกระทบอย่างแรงต่อเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเปิดศึก เอฟเอคัพ รอบตัดเชือก กับ ไบรท์ตัน ในวันอาทิตย์นี้ที่ เวมบลีย์ ด้วยเนื่องจากซีซั่นนี้ นกนางนวล ยกระดับทีมขึ้นมาได้อย่างน่าจับตามอง และถึงตอนนี้พวกเขาคงกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจหลังเห็น ผีแดง ที่แผงหลังไม่สมประกอบแพ้ เซบีย่า ยับเยิน
อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : ลิเวอร์พูล-แมนยู มีลุ้นหลังประธาน เซลต้า ยอมรับไม่อาจรั้งแข้งดาวรุ่งในซัมเมอร์นี้
