ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุน และข้อมูลสำหรับงานวิจัย

เศรษฐศาสตร์

ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดงานสัมมนา Capital Market Research Forum ครั้งที่ 1/2566

หัวข้อ “การเชื่อมโยงงานวิจัยด้าน Factor Investing ให้ตอบโจทย์ธุรกิจตลาดทุน” โดยมี Mr. Vignesh R S Head of ASEAN Specialist Sales, Bloomberg Singapore บรรยายถึงการนำ Factor Model ไปประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การลงทุน ร่วมด้วย รศ. ดร.คณิสร์ แสงโชติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ. ดร. สัมพันธ์ เนตยานันท์ คณะบริหารธุรกิจ

เศรษฐศาสตร์

เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร ดร. ธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน บลจ. บางกอกแคปปิตอล และ กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์ บลจ. กสิกรไทย ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการนำฐานข้อมูล Factor Library ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแพร่มาใช้ในงานวิจัยซึ่งจะนำไปต่อยอดให้สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ โดยมีนักวิจัย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ ร่วมรับฟัง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่อาจเพิ่มเพดานดอกเบี้ยสูงสุด

นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่อาจเพิ่มเพดานดอกเบี้ยสูงสุด

เศรษฐศาสตร์

นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่อาจเพิ่มเพดานดอกเบี้ยสูงสุด

ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ลงสู่ระดับ 0.50% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน

ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ลงสู่ระดับ 0.50% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน

ขณะที่บางส่วนมองว่า การที่เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินยาวนานมากขึ้นและปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดให้สูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด

ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐลดลงระดับต่ำกว่า 8% สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งหนุนคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

เศรษฐศาสตร์

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในปีที่จะถึงนี้และในปีถัดไปอาจสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้เมื่อเดือนก่อนเล็กน้อย พร้อมแนะนำว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่เฟดจะพิจารณาการหยุดใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดในเร็ว ๆ นี้

นักเศรษฐศาสตร์ 78 จาก 84 คนจากผลสำรวจเมื่อวันที่ 14-17 พ.ย. คาดว่า เฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่กรอบ 4.25-4.50% ในการประชุมนโยบายวันที่ 13-14 ธ.ค.

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเฟดได้ปรับขึ้นจากระดับใกล้เคียง 0% ในเดือนมี.ค. กลายเป็นหนึ่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วที่สุด โดยหลายฝ่ายคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะแตะระดับสูงสุดที่อย่างน้อย 4.75-5.00% ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งสูงกว่าระดับที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ 0.25% เมื่อเดือนก่อน และอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ในปัจจุบันอยู่ที่ 4.25-4.50% และ 5.75-6.00%

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ 16 จาก 28 คนมองว่า ความเสี่ยงที่น่ากังวลมากกว่าคืออัตราดอกเบี้ยจะสูงสุดจะสูงขึ้นและยาวนานกว่าที่คาดไว้

ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์อีก 4 คนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่คาดและลดลงเร็วกว่าที่คาด ส่วนที่เหลือมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าที่คาดและลดลงเร็วกว่านั้น